วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

กลยุทธ์หนีน้ำ ดันยอดขายพุ่งนีโอไลฟ์ โตกว่า 20%

รับสมัครสมาชิกนีโอไลฟ์ ทั่วประเทศ
 http://ads.neolifeonlinecenter.com/?id=tong

กลยุทธ์หนีน้ำ ดันยอดขายพุ่งนีโอไลฟ์ โตกว่า 20%บิ๊กเนมฉีกตำรารุกครึ่งปีหลังบุกทุกช่องทาง

      ติดตามได้ใน นสพ.สยามธุรกิจ วางแผงทุกวันพุธและวันเสาร์
      

              ครึ่งปีแรกผ่าน ค่ายบิ๊กเนมกอดคอโตตามเป้า เป็นผลจากการเร่งเครื่อง หวั่นปัญหา “น้องน้ำ” ทำพิษ “นีโอ ไลฟ์” ยอดขายขยายตัวกว่า 20% พุ่งเป้า AEC เต็มกำลัง “แอมเวย์” โต 7% เน้นจับลูกค้าวัยรุ่นต่อเนื่อง “กิฟฟารีน” รายรับเพิ่มไม่น้อยหน้า 7% เปิดช่องดาวเทียมช่วยสมาชิกล่านักขายหน้าใหม่ “เอม สตาร์” บอกโตตามเป้า ทำตลาดค่อยเป็นค่อยไป เลิกพูดถึงเป้าหมื่นล้าน

ผ่านไป 6 เดือนแรกของปี บรรดาค่าย ขายตรงยักษ์ใหญ่ต่างพอใจกับสถานการณ์ของบริษัทตนเอง หลังยอดขายช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปได้ตามเป้าที่วาง โดยครึ่งปีหลัง หลายบริษัทเน้นการสร้างตลาดทั้งในและนอกประเทศเป็นสำคัญ หลังตลาด AEC ใกล้ เปิดเต็มที อีกทั้งยังมีปัญหาน้ำท่วมที่ผู้ประกอบการยังติดภาพหลอนไม่หาย ซึ่ง 6 เดือนนับจากนี้จะเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดที่จะวัดกันว่าค่ายใดจะสามารถโกยยอดขายได้มากกว่ากันในห้วงเวลาที่ไม่มีอะไรแน่นอน!

> “นีโอ ไลฟ์” ยอดขายพุ่งกว่า 20%

บริษัทที่ดูจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้น “บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ซึ่งในครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ “ดร.นพรุจ เวชกุล” หัวเรือใหญ่ของบริษัทได้เผยว่า “นีโอ ไลฟ์” สามารถสร้างการเติบโตได้ถึง 20-21% อย่างไรก็ดี ก็ยังไม่เป็นที่ปลาบปลื้ม มากนัก เนื่องจากเป้าที่วางไว้สูงกว่านั้น

จากตัวเลข 4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขปิดบัญชีของบริษัทเมื่อปีก่อน นับว่า เป็นตัวเลขที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการ ได้เป็นอย่างดี แต่เป้าหมายใหญ่ของบริษัท คือ ต้องการที่จะไต่ไปให้ถึง 1 หมื่นล้านบาทให้ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทำให้ตัวเลข การเติบโตในปีนี้ของบริษัทยังไม่ใช่ตัวเลข ที่น่าพอใจ

“นีโอ ไลฟ์” เน้นหนักไปที่เรื่องของการเปิดประตูการค้าเสรีอาเซียน หรือ AEC ที่จะมีขึ้นในปี 2558 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า โดยได้สร้างแผนงานมุ่งไปที่ส่วนนี้ เป็นสำคัญ ภายในธีม Connect The Dot to Asian โดยตั้งเป้าว่า ไม่เกินปีหน้า บริษัท จะปักฐานสาขาของ “นีโอ ไลฟ์” ให้ครบทั้ง 10 ประเทศในแถบอาเซียน เพื่อหวังวางรากฐานในการเดินหน้าสู่โลกการค้าเสรีที่กำลังจะเกิดขึ้น
โดยในช่วงครึ่งปีหลังของบริษัท “นีโอ ไลฟ์” พยายามสร้างแผนงานในประเทศอย่างการเปิดแฟรนไชส์กาแฟ พร้อมกับการเดินสายประชุมอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างการตลาดในต่างประเทศ ซึ่งนับเป็น 2 สิ่ง ที่ทีมผู้บริหารของบริษัทได้วางกลยุทธ์ได้อย่างลงตัว ซึ่งหากมองอย่างละเอียดเป้าหมายหมื่นล้านของบริษัท คงไม่ได้ไกลอย่างที่หลายคนมองเสียแล้ว

> “แอมเวย์” โต 7% เน้นลูกค้าวัยรุ่น
“บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด” นับเป็นแบรนด์ขายตรงที่เก่าแก่ที่สุดแบรนด์หนึ่งของประเทศไทย ทั้งยังเปรียบเสมือนบริษัทผู้บุกเบิกทำให้ธุรกิจขายตรงเริ่มเป็นที่รู้จักกันในช่วงต้นของวงการธุรกิจ เครือข่าย จากสิ่งนี้ด้วยความที่อยู่มานานพร้อมแผนการตลาดที่ดี ทำให้ “แอมเวย์” กลายเป็นเบอร์หนึ่งของวงการขายตรงบ้านเราโดยในปีนี้ หลังจากที่ผ่านไปครึ่งปีของการเปิดสนามทำธุรกิจ แม่ทัพใหญ่อย่าง “กิจธวัช ฤทธีราวี” ประกาศว่า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 7% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่เป็น ไปตามเป้า โดยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา บริษัท ได้เดินกลยุทธ์หลักคือ เรื่องของสินค้าในกลุ่ม ต่างๆ ในไลน์ของ “แอมเวย์” รวมทั้งยังผลักดันในส่วนของการจับกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีอย่างสื่อออนไลน์ และ โซเชียลเน็ตเวิร์ก ในการสร้างเครือข่าย

ซึ่งการใช้ช่องทางการตลาดแบบใหม่ ที่บริษัทได้พยายามใช้มาตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เป็นการใช้เพื่อกลุ่มลูกค้า Gen Y หรือกลุ่มลูกค้าใหม่ เน้นกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่ม ผู้เริ่มเข้าสนามแรงงานเป็นสำคัญ บวกกับการถ่ายทอดความรู้เรื่องของนวัตกรรมสินค้าควบคู่ จุดนี้ถือเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทที่ได้พยายามผลักดัน ซึ่งเชื่อว่าในช่วง สิ้นปี บริษัทจะสามารถขยับเข้าใกล้ยอดขาย 2 หมื่นล้าน ที่ “แอมเวย์” วางไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้วได้อย่างใกล้เคียง

อย่างไรก็ดี ในส่วนของยอดขาย 2 หมื่นล้านบาท ที่บริษัทได้ตั้งเป้าว่าปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทประสบความสำเร็จในส่วนของ เป้ายอดขายนี้ ก็เห็นจะเป็นเรื่องยาก เพราะ หากดูจากยอดขายเมื่อปีที่แล้วที่บริษัทปิดไว้ที่ 1.55 หมื่นล้านบาท หากปีนี้จะปิดเพิ่มอีก 4.5 พันล้านบาท ดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่งทีมผู้บริหารของบริษัท คงต้องยืดระยะเวลาออกไป

> “กิฟฟารีน” เปิดช่องดาวเทียมหลังรายรับขยาย 7%

มาดูกันที่ค่ายยักษ์ใหญ่ของวงการ MLM ไทย อย่าง “บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด” ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่าน มา บริษัทมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 7-10% ซึ่งบริษัทยืนยันว่าอัตราการเติบโตที่เห็นนี้ เป็นไปได้ตามเป้าหมายที่บริษัทได้วาง ไว้ โดยที่ “พงษ์พสุ อุณาพรหม” ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด ชี้ให้เห็นว่า อัตรา การเติบโตนี้เป็นผลจากความมั่นใจของสมาชิก จากแผนรับมือน้ำท่วมในปีก่อน

อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังนับจากนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์หลัก คือ การสร้างแผนการตลาด โดยเน้นไปที่เรื่องการสื่อสาร แบรนด์เป็นสำคัญ โดยบริษัทได้ควักงบกว่า 50 ล้านบาท เพื่อเปิดช่อง “ทีวี ดาวเทียม” โดยหวังให้เป็นสื่อสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ และสร้างการรับรู้ให้เพิ่มขึ้นกับบริษัท

ซึ่งการเปิดช่อง “ทีวี ดาวเทียม” นี้ บริษัทได้ใช้ชื่อช่องว่า “กิฟฟารีน แชนแนล” โดยถือเป็นกลยุทธ์ไฮไลต์ประจำปีของบริษัท เลยก็ว่าได้ จากเรื่องนี้ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดช่องทาง การสื่อสารดังกล่าวจะทำให้แบรนด์ของ กิฟฟารีนจะเป็นไปในทางใด อีกทั้งในช่วงนี้นับเป็นเวลาที่สื่อดาวเทียมกำลังจะถูกวางทิศทาง การนำเสนอจากทางภาครัฐ โดยหากสื่อดังกล่าวไม่ถูกปิดกั้นการนำเสนอมากเกินไป ก็นับเป็นเรื่องดีของบริษัท รวมทั้งค่ายขาย ตรงที่เน้นใช้สื่อนี้ในการสร้างการรับรู้แบรนด์

> “เอม สตาร์” ออกสินค้าอัดแคมเปญดึงเรตติ้งคืน

ว่ากันว่าแบรนด์ขายตรงที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการได้มากที่สุดในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา เป็นของ “บริษัท เอมสตาร์ เน็ทเวิร์ค จำกัด” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า แบรนด์ ขายตรงนามนี้ มองไกลไปที่ตัวเลขยอดขาย 1 หมื่นล้านบาทเป็นสำคัญ และหากดูจากตัวเลขการเติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยอดขายหมื่นล้านบาทที่บริษัทตั้งเป้าก็ไม่ใช่ เพียงเรื่องเพ้อฝันอย่างแน่นอน

ในช่วงครึ่งปีแรกของ “เอม สตาร์” ในปีนี้ “ท.ญ.ลพา วัชรศรีโรจน์” บอกเพียงว่า อัตราการเติบโตเป็นไปได้ตามเป้าหมาย ที่บริษัทได้วางไว้ ส่วนตัวเลขยอดขายหมื่นล้านบาทนั้น บริษัทคงจะไม่ใช้เป็นเป้าหมาย อีกต่อไป เนื่องจากบริษัทต้องการที่จะเน้นการทำตลาดเรียกชื่อเสียงที่หายไป จากการ ทิ้งน้ำหนักสาขาต่างประเทศในปีที่ผ่านมามากจนเกินไป ทำให้ยอดขายและเรตติ้งในประเทศถูกตัดทอน

โดยกลยุทธ์หลักๆ ของ “เอม สตาร์” ก็จะเน้นไปที่สินค้า ที่บริษัทได้เพิ่มเข้ามาในไลน์ โดยใช้แคมเปญต่างๆ เข้ามาเป็นตัวสร้าง การรับรู้ในการเปิดตัวสินค้า หนึ่งในนั้นเป็น การจัดประกวดนายแบบ นางแบบ ที่บริษัท ได้จัดขึ้น ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดยกิจกรรมนี้ ดูจะได้ผลทำให้ผู้บริโภคเกิดการ รับรู้ และจดจำในส่วนของยี่ห้อแบรนด์


ขอขอบคุณ นสพ.สยามธุรกิจ  ฉบับที่ 1313 ประจำวันที่ 30-6-2012  ถึง 3-7-2012

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ข้อแตกต่างระหว่าง “ธุรกิจขายตรง” กับ “ขายตรงแอบแฝงแชร์ลูกโซ่”

นีโอไลฟ์ออนไลน์เซ็นเตอร์  เปิดรับสมัครสมาชิกทั่วประเทศ



 
                จากข้อมูลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รวบรวมไว้เกี่ยวกับแผนประทุษกรรม หรือรูปแบบของแชร์ลูกโซ่ในลักษณะต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ www.dsi.go.tt และใช้ชื่อเรื่องว่า กลยุทธ์กลโกง “ แชร์ลูกโซ่ ” เพื่อเป็นการให้ความรู้กับประชาชน ในการป้องกันมิให้ตกเป็นเหยื่อของแชร์โซ่ ซึ่งได้รวบรวมไว้มากกว่าสิบรูปแบบ เช่น แชร์ข้าวสาร แชร์ก๋วยเตี๋ยว แชร์ยางพารา เป็นต้น ข้อมูลดังกล่าวเผยให้เห็นถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแชร์ลูกโซ่สูงถึงกว่าพันห้าร้อยล้านบาท และมีจำนวนของผู้เสียหายที่เชื่อว่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนคน สะท้อนให้เห็นว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่รู้เท่าไม่ทันกลโกงของธุรกิจที่แอบแฝงแชร์ลูกโซ่เหล่านี้ และมีหลายกรณีที่ใช้รูปแบบโดยแอบอ้างว่าเป็นธุรกิจขายตรงแต่กลับดำเนินธุรกิจแอบแฝงในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ ซึ่งแต่ละรูปแบบของการกลโกงนั้นมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป ธุรกิจทั้งสองประเภทนี้จะมีลักษณะที่แตกต่างกัน คือ ธุรกิจขายตรงนั้นจะต้องมีการจดทะเบียนกับ สคบ. และดำเนินธุรกิจตรงตามที่ได้ยื่นจดทะเบียนไว้ การรับสมัครสมาชิก ไม่มีการบังคับ ไม่มีเงื่อนไขให้สมาชิกต้องซื้อสินค้าเพื่อมีสิทธิในการร่วมธุรกิจ สมาชิกสามารถนำสินค้าไปเสนอขายต่อผู้บริโภคได้โดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภค โดยที่ผลตอบแทนของสมาชิกขึ้นอยู่กับการขายสินค้า และสินค้าจะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง โดยจะต้องผ่านการตรวจสอบหรือได้รับการรองรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สมาชิกมีความเป็นอิสระในการคืนสินค้า คือสมาชิกจะมีสิทธิในการคืนสินค้าตามเงื่อนไขของสัญญา และรอรับเงินคืนในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนผู้บริโภคนั้นจะมีสิทธิในการเลิกสัญญา โดยการส่งหนังสือแสดงเจตนาภายใน 3 วัน นับจากวันที่ได้รับสินค้า หรือบริการ สำหรับธุรกิจขายตรงแอบแฝงแชร์ลูกโซ่นั้น เป็นธุรกิจที่ไม่ได้มีการจดทะเบียน หรืออาจจะมีการจดทะเบียนแล้ว แต่การดำเนินธุรกิจนั้นมีความแตกต่างจากที่ได้ยื่นจดทะเบียนไว้ การรับสมาชิกจะมีเงื่อนไข หรือมีการบังคับให้สมาชิกต้องซื้อสินค้าเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมธุรกิจ โดยที่สมาชิกไม่ต้องนำสินค้าไปเสนอขายต่อผู้บริโภค แต่จะมุ่งเน้นให้สมาชิกไปชักชวนบุคคลอื่นให้เข้าร่วมเครือข่าย โดยที่ผลตอบแทนจะเป็นรายได้จากการแนะนำ ที่คิดคำนวณจากจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมเครือข่ายมากขึ้น สำหรับตัวสินค้าจะเป็นสินค้าที่มีราคาสูงแต่คุณภาพต่ำ และไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะมีการใช้วิธีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณที่เกินจริง และมักจะไม่รับคืนสินค้า เพราะระบบการจ่ายเงินเป็นการนำเงินจากผู้สมัครรายใหม่มาจ่ายให้กับสมาชิกรายเก่าต่อๆกันไป

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รางวัลยอดเยี่ยม แห่งเกียรติยศอันสูงสุด นีโอไลฟ์

       รางวัลแห่งความสำเร็จ ของผู้บริหาร และนักธุรกิจนีโอไลฟ์ 
ธุรกิจไทยที่เติบโตอย่างมั่นคง http://www.neolifeonlinecenter.com/รับสมัครสมาชิก นักธุรกิจอิสระทั่วอาเซียน ร่วมเติบโตอย่างอย่างมั่นคง กับธุรกิจขายตรงในระบบเครือข่ายของคนไทย 100% ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์กว้างไกล Connection ที่มั่นคงและมากมาย สินค้าดี แผนการตลาดดี ทำง่าย รวยจริง!


    รางวัลเกียรติยศนี้ แสดงให้เห็นว่า นีโอโลฟ์สามารถ สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ อย่างยั่งยืนให้พี่น้องคนไทยและในอาเซียน ตักหนักดีว่า นีโอไลฟ์ทำได้จริง  รวยจริง คุณทำได้.....



วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

นีโอไลฟ์  บิวตี้สปา ช๊อปในลาว  2012

Update Neolife Beauty Spa shop